วันนี้ (8 มี.ค. 63) วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยืนยัน มีเป้าหมายกับทีมในปีนี้ที่การคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งมารองให้ได้ เนื่องจากเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมที่ลงตัวและมีพร้อมทุกอย่างในเวลานี้ หลัง กระต่ายแก้ว โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม เก็บ 10 คะแนน จาก 4 นัด
โดยแนวรับประสบการณ์สูงวัย 30 ปี ชาวแซมบ้า ที่ค้าแข้งในประเทศไทยมากว่า 6 ปี ได้เปิดใจกับ BG Talk ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้แฟนๆได้ติดตามกันแล้ว ว่าแล้ว…ไปชมกันได้เลย
Q : ก่อนที่คุณจะย้ายมา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คุณรู้จักสโมสรแห่งนี้มากแค่ไหน ?
A : เหมือนที่ผมเคยพูดตั้งแต่สัมภาษณ์ในช่วงแรกๆตอนที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ บีจี เป็นหนึ่งในทีมใหญ่ของประเทศไทย เป็นทีมที่ผมเคยฝันว่าอยากจะมาค้าแข้ง ซึ่งตอนนี้ผมได้ปลดล็อคความฝันนั้นแล้ว การได้มาเล่นในบรรยากาศแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นสนามหรือแฟนบอลมันสุดยอดมากๆ สำหรับผม บีจี มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุดในเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นสนามซ้อมและอุปกรณ์ต่างๆ นี่แหละครับฝันของผม
Q : สุดท้ายคุณก็ได้ย้ายมาร่วมทีม บีจีพียู ความรู้สึกเป็นอย่างไร ?
A : ผมรู้สึกดีและมีความสุขมากๆในการได้มาเล่นให้ บีจี ครอบครัวของผมก็เช่นกัน ตอนนี้พวกเราทุกคนต้องทำเต็มที่ พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อสโมสรครับ
Q : เป้าหมายของคุณกับ บีจีพียู ?
A : เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของผมคือมองแบบเกมต่อเกม ยกตัวอย่างเช่นเกมต่อไปเราจะเยือนตราด เป้าหมายของผมตอนนี้คือการเอาชนะตราด แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเรามาเล่นในทีมใหญ่อย่าง บีจี ทุกคนคาดหวังกับถ้วยแชมป์ และผมจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยทีม, โค้ช และสตาฟฟ์ เพื่อถ้วยแชมป์ ผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ บีจี จะต้องมีถ้วยรางวัลขอเป็นถ้วยใหญ่ๆเลยครับ
Q : ก่อนที่คุณจะย้ายมาเล่นฟุตบอลที่เมืองไทยคุณรู้จักฟุตบอลไทยแค่ไหน ?
A : ผมไม่เคยคิดว่าไทยลีกจะง่ายเลย มันต้องไม่ง่ายสำหรับผมแน่ๆ จริงๆผมเป็นคนค่อนข้างเจียมตัวนะ ผมคิดว่าเราต้องปรับตัวซึ่งผมว่ามันเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ผมมาไทยครั้งแรกผมเล่นให้ อุบล ยูเอ็มที ในลีกภูมิภาคตอนนั้นผมค่อยๆปรับตัว พอผ่านไปประมาณหนึ่งเดือน ผมเริ่มรู้สึกดีขึ้น รู้สึกว่าเล่นได้ปกติ อย่างที่บอกการปรับตัวต้องใช้เวลาและมันไม่ได้ง่ายไปหมดสำหรับทุกคน
Q : จากวันแรกที่คุณย้ายมาเล่นฟุตบอลที่เมืองไทย กับปัจจุบันมันต่างกันแค่ไหน ?
A : เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก อย่างมากจริงๆครับ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ผมมาจนถึงทุกวันนี้ถือว่าเติบโตเร็วมาก ผมคิดว่ามันดีมากๆ และแฟนบอลไทยทุกคนสมควรจะมีลีกดีๆแบบนี้ให้ดูครับ
Q : ที่เมืองไทยมีนักเตะบราซิลมาค้าแข้งหลายคนมันช่วยคุณได้มากน้อยแค่ไหน ?
A : ช่วยได้มากครับ อย่าง 5 ปีที่แล้ว ก่อนที่ผมจะมาค้าแข้งที่นี่ผมโทรถามเพื่อนชาวบราซิลว่าที่นี่เป็นยังไงบ้าง เขาเล่าให้ผมฟังทุกๆอย่าง รวมถึงวันหยุดพวกเราก็ได้มาเจอกันบ้าง พูดคุยกัน ทำบาร์บีคิวกินกัน มันช่วยให้เราผ่อนคลายได้ครับ และรู้สึกเหมือนเราอยู่บ้านเกิด จริงๆตอนนี้ผมรู้สึกว่าประเทศไทยเป็นบ้านของผมด้วยซ้ำ บ้านหลังที่สองเลยก็ว่าได้ ที่นี่ไม่ใช่บราซิลก็จริงแต่เรามีเพื่อน มีสังคม คนไทยก็ใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนที่บราซิลครับ
Q : สิ่งที่คุณประทับใจมากที่สุดในเมืองไทย ?
A : ตอนผมมาที่นี่แรกๆบอกตรงๆผมไม่ชอบอาหารไทยเลยนะ แต่ตอนนี้ผมชอบอาหารไทยมากเลยครับ เป็นอาหารดีที่สุดเลยสำหรับผม ผู้คนก็ดีมากๆ ผมมักจะพูดอย่างนี้เสมอเวลาคนถามว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร ทุกคนที่นี่ต้อนรับผมอย่างอบอุ่น อาหารไทยนี่แหละครับสุดยอดจริงๆ เผ็ดนิดๆ ผมคิดว่าผมอยากอยู่ที่นี่นานๆ นานกว่านี้ จริงๆผมก็สู้เพื่อที่จะได้อยู่นานขึ้นครับ
Q : ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีมรวมถึงแผงหลังของ บีจีพียู เป็นอย่างไร ?
A : ดีครับ พวกเขาต้อนรับผมดีมาก ไม่ใช่แค่เพื่อนๆกองหลัง แต่ทุกๆคนเลยครับ เพื่อนร่วมทีม สตาฟฟ์ และทุกๆคน ในส่วนของกองหลังพวกเราก็ต้องช่วยทีม เชื่อฟัง ทำตามที่โค้ชสั่ง เรามีความสัมพันธ์ที่ดีมากเราพูดคุยกันเสมอ เราผลักดันซึ่งกันและกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นนักเตะไทยหรือต่างชาติอย่าง เอ็กซ์(สุวรรณภัทร กิ่งแก้ว) ต้น(ทศพล ชมชน) โม่(ไชยพฤกษ์ จิราจินต์) อัลวาโร่ ซิลวา อิรฟาน ฟานดี้ และผม เราสนิทกันและพูดคุยกันเสมอเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด
Q : ในฐานะที่คุณเล่นกองหลังคุณมองกองหน้า(นักเตะไทย)เป็นอย่างไร ?
A : ตอนผมมาที่นี่แรกๆผมเห็นกองหน้าไทยดีๆหลายคนเลยนะ อาจจะไม่ใช่หน้าเป้า แต่ตัวรุกดีๆผมเห็นมาเยอะมาก บางคนก็ไปค้าแข้งต่างประเทศแล้วไม่ว่าจะเป็น เจ(ชนาธิป สรงกระสินธ์) มุ้ย(ธีรศิลป์ แดงดา) ผมเชื่อว่าไทยมีกองหน้าดีๆเสมอ ส่วนผมชอบเล่นกับผู้เล่นเก่งๆนะ เป็นการต่อสู้ที่ท้าทายดี
Q : คุณคิดว่ารูปร่างที่สูงใหญ่อย่างคุณกับตำแหน่งกองหลังมีข้อเสียหรืออะไรที่ต้องปรับปรุงหรือไม่ ?
A : ขอคิดก่อนนะครับ…. ก็มีบ้างครับ ตัวใหญ่ก็ไม่ใช่จะสมบูรณ์แบบทุกอย่าง ยกตัวอย่างเช่นเวลา Recovery ร่างกาย ผมมีกล้ามเนื้อเยอะมันอาจจะฟื้นฟูช้า บางทีก็ปวดหลังครับ และเวลาเล่นบนพื้นสนามแข็งๆ รวมถึงเวลาเล่นสนามที่ไม่ค่อยดีก็ปวดขาบ้างปวดหลังบ้าง แต่คำถามนี้ไม่เคยเจอครับ ตอบยาก
Q : อนาคตวงการฟุตบอลไทยในสายตาคุณจะเป็นอย่างไร ?
A : ความฝันของผมตอนนี้คือผมอยากเห็นทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลก ผมรู้ว่ามันยาก แต่ผมหวังอย่างนั้นจริงๆนะ ผมเติบโตในบราซิล ผมเห็นบราซิลไปเล่นฟุตบอลโลกหลายสมัย มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดมากๆ คนไทยก็สมควรได้รับสิ่งนี้ คนไทยรักฟุตบอลมากๆ คุณลองคิดดูว่าถ้าได้เห็นทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลกจะรู้สึกยังไง นั่นแหละครับคือสิ่งที่ผมหวัง ขอบคุณครับ
ทั้งหมดเป็นเรื่องราวและมุมมองของ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ หนึ่งในแข้งบราซิลที่มาหาความท้าทายที่เมืองไทย ต้องมาติดตามกันว่าเจ้าตัวจะนำความสำเร็จมายังถิ่นลีโอ สเตเดี้ยม ได้มากน้อยแค่ไหนผลงานในฤดูกาล 2020 จะเป็นเครื่องพิสูจน์
ขอบคุณแหล่งข่าว : http://www.bgputd.com