หลังจากที่เข้ามารับงานเป็นผู้จัดการทีมเชลซีในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตนักเตะตำนานของเชลซีและทีมชาติอังกฤษ ก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่น และ ให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งของทีมมากขึ้น ซึ่งด้วยเงื่อนไขไม่สามารถซื้อนักเตะเพิ่มได้ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้เขาเลือกที่จะให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งหลายคนของทีมลงสนาม ซึ่งหลายคนก็ทำผลงานได้ดี และ สามารถเป็นตัวหลักของทีมได้ แต่ก็มีบางนัดที่นักเตะเหล่านี้ยังขาดประสบการณ์ การปิดเกมส์ ซึ่งพวกเขาก็ต้องเรียนรู้ต่อไป เพราะยังมีประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลระดับสูงน้อยเกินไป
ขุมกำลังของนักเตะเชลซีชุดปัจจุบันถูกมองว่ายังมีคุณภาพที่ไม่ดีพอที่จะไปลุ้นแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้ แต่ในระยะยาวก็มีทางที่เป็นไปได้ เพราะนักเตะที่มีอยู่ตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นดาวรุ่งและน่าจะใช้เวลา 2-3 ปี ในการทำให้พวกเขามีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นักเตะอย่าง แทมมี อับราฮัม เมสัน เมาท์ รีสส์ เจมส์ ฟิกาโย โทโมริ และ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอยนักเตะเหล่านี้อายุไม่ถึง 23 ปี แต่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงที่ผ่านมา
ประกอบกับแผนการเล่นของ แลมพาร์ด ที่สนับสนุนนักเตะสายเลือดใหม่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขามีความมั่นใจ และโชว์ความสามารถได้อย่างเต็มที่ ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในช่วงที่ผ่านมาทำให้ทีมอยู่อันดับที่ 4 ของตารางฟุตบอลพรีเมียร์ลีก มีโอกาสไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า
นอกจากปัจจัยในส่วนของผู้เล่นดาวรุ่งก็ยังมีนักเตะอย่าง เอ็นโกโล ก็องเต้ กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส จอร์จินโญ่ กองกลางทีมชาติอิตาลี วิลเลี่ยนปีกทีมชาติบราซิล ที่เป็นนักเตะที่มีประสบการณ์และมีคุณภาพที่ประคองนักเตะเหล่านี้ จึงเป็นการผสมผสานผู้เล่นดาวรุ่ง กับผู้เล่นที่มีประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี คาดว่าในอนาคตอันใกล้ถ้าเชลซีสามารถเก็บผู้เล่นชุดนี้เอาไว้ได้ทั้งหมด โดยนักเตะดาวรุ่งก็จะมีประสบการณ์มากขึ้น มีทีมเวิร์กที่ดี
ก็เชื่อว่าเชลซีในยุคของแฟรงค์ แลมพาร์ด มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และ ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งก็ต้องวัดใจบอร์ดบริหารของเชลซีว่าจะสามารถรอเวลาและ ให้โอกาสทีมชุดนี้ได้นานแค่ไหน แต่เชื่อว่าในระยะเวลา 3 ปี ต่อจากนี้ เชลซีน่าจะมีแชมป์ติดมืออย่างแน่นอน เพราะรูปแบบและสไตล์การเล่นของเชลซีมีอนาคตที่ดีมาก รอแค่เวลาที่เหมาะสมแค่นั้นเอง