การค้างคาที่พังทุกฝ่าย

ขอบสนามวิเคราะห์เกมส์

เมื่อช่วงที่ตลาดซื้อขายนักเตะหน้าร้อนช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมายังเปิดอยู่ เกือบที่จะมีการย้ายทีมครั้งประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในตอนนั้น ซึ่งก็คือดีลของลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ของบาร์เซโลน่าที่ตกเป็นข่าวว่าเกือบที่จะได้ย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้แบบไม่มีค่าตัวแล้วในตอนนั้น แต่ว่าสุดท้ายเจ้าตัวกลับเปลี่ยนใจที่จะค้าแข้งกับทีม “เจ้าบุญทุ่ม” ต่ออีก 1 ฤดูกาลก่อน

เนื่องจากเมสซี่ไม่อยากมีปัญหากับการฟ้องร้องเรื่องสัญญาของสโมสรที่อาจจะทำให้เขากับทีมบาดหมางไปมากกว่านี้ ทำให้เขาตัดสินใจที่จะเล่นในถิ่นคัมป์ นูต่อไปอีก 1 ฤดูกาล และเตรียมที่จะย้ายออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้แทน ซึ่งเมสซี่นั้นไม่พอใจโจเซ็ป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรคนก่อนของบาร์เซโลน่าที่พึ่งลาออกไปไม่นานมานี้เป็นอย่างมาก เกี่ยวกับแนวทางการบริหาร และหลายๆ นโยบายที่ไม่ส่งผลดีต่อทีมในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดการทะเลาะกันผ่านสื่ออยู่ตลอด

จนสุดท้ายบาร์โตเมวก็อยู่ไม่ครบวาระ และต้องลาออกไปหลังจากที่มีการล่ารายชื่อถอดถอนจากตำแหน่งประธานสโมสร ซึ่งการตัดสินใจอยู่ต่อของเมสซี่ในตอนแรกนั้นก็เหมือนว่าจะเป็นประโยชน์ของบาร์เซโลน่าเป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถรั้งนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกคนหนึ่งไว้กับทีมต่อไปได้อย่างน้อย 1 ฤดูกาล

แต่กลับกลายเป็นว่าการอยู่ต่อของลิโอเนล เมสซี่จะไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับฝ่ายไหนเลย ไม่ว่าจะเป็นตัวเมสซี่เองที่ก็ไม่มีความสุขกับการค้าแข้งให้กับบาร์เซโลน่าไปแล้วในตอนนี้ ซึ่งทำให้ผลงานและฟอร์มการเล่นของดาวเตะหมายเลข 10 รายนี้ตกลงอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะจำนวนประตูที่น้อยลงมาก และแทบจะทำประตูจากจังหวะโอเพ่น เพลย์ได้น้อยมาก รวมถึงต้นสังกัดอย่างบาร์เซโลน่าด้วย ที่ช่วงต้นฤดูกาลก็ผลงานไม่สู้ดีนัก เมื่อมีปัญหาภายในสโมสร แม้ว่าตัวปัญหาอย่างโจเซ็ป มาเรีย บาร์โตเมวจะออกจากตำแหน่งไปแล้วก็ตาม ซึ่งอีกทีมที่มีส่วนเกี่ยวของก็คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ชวดได้ตัวเมสซี่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาก็กำลังอยู่ในช่วงที่ลำบากกับการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้เช่นกัน แต่ดูแล้วโอกาสที่ลิโอเนล เมสซี่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้จะได้ร่วมงานกันหลังจบฤดูกาลนี้นั้นมีมากทีเดียว เนื่องจากเป็ป กวาดิโอล่าก็พึ่งจะต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมไปอีก 2 ปี ซึ่งน่าจะเป็นเพราะการมาของลิโอเนล เมสซี่นั่นเอง