โรเมลู ลูกากู กองหน้าร่างใหญ่ทีมชาติเบลเยี่ยม ถือว่าเป็นกองหน้าระดับชั้นนำของศึกพรีเมียร์ลีกในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในตอนที่เขาเล่นให้กับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเขากลายเป็นกองหน้าชั้นนำของพรีเมียร์ลีกเลยด้วยซ้ำ ซึ่งกองหน้าผิวสีรายนี้ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่องจนทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องทุ่มเงินถึง 75 ล้านปอนด์คว้าตัวไปร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ในยุคที่มีโชเซ่ มูรินโญ่ ยอดกุนซือชาวโปรตุกีสคุมทีม ซึ่งเขาก็เป็นตัวหลักของทีม “ปีศาจแดง” ตั้งแต่นั้นมา แต่ผลงานการทำประตูของเขากลับลดน้อยลงจากเดิม ทั้งที่ย้ายมาอยู่กับทีมใหญ่ขึ้น แต่ด้วยทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตอนนั้นไม่มีตัวเปิดป้อนที่ดี และตัวเปิดจากริมเส้นที่ฝากความหวังได้ ทำให้ลูกากูต้องเคว้งคว้างอยู่ในกรอบเขตโทษบ่อยครั้ง ทำให้สถิติการทำประตูของเขาตกลงไปอย่างชัดเจน และพอทีมมีการเปลี่ยนกุนซือมาเป็นโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ก็มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่น จนทำให้ลูกากูต้องกลายเป็นตัวสำรองหลายครั้งในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว จนทำให้เขาตัดสินใจย้ายทีมในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา โดยย้ายไปอยู่กับอินเตอร์ มิลาน ทีมดังของศึกกัลโช่ เซเรีย อาของอิตาลี
กับอินเตอร์ มิลานในฤดูกาลนี้นั้นโรเมลู ลูกากูกลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง เมื่อเขาไปอยู่ในมือของอันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือที่อยากได้ตัวเขามาร่วมทีมตั้งแต่ตอนที่คุมทีมเชลซีเมื่อปี 2017 แล้ว แต่ว่าตอนนั้นพวกเขาถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตัดหน้าไป และไปได้ตัวอัลบาโร่ โมราต้า กองหน้าทีมชาติสเปนมาร่วมทีมแทน ซึ่งการมาร่วมงานกันที่เมืองมิลานครั้งนี้นั้นคอนเต้จัดให้ลูกากูเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าคู่กับเลาตาโร่ มาร์ติเนซ กองหน้าดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ในระบบ 3-5-2 ซึ่งเล่นกันได้อย่างเข้าขา และลงตัวสุดๆ จนทำให้ผลงานของทั้งคู่ และของอินเตอร์ มิลานดีเยี่ยมทีเดียว และเมื่อโรเมลู ลูกากูมีตัวเปิดป้อนที่ดีทั้งจากคู่หูของเขา และตัวริมเส้นที่เปิดบอลได้แม่นยำกว่าแบ็คของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้เขากลับมาเป็นกองหน้าตัวอันตรายอีกครั้งในฤดูกาลนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจย้ายทีมที่ยอดเยี่ยมทีเดียวของดาวเตะวัย 27 ปีรายนี้ ที่ตัดสินใจที่จะออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดมาค้าแข้งในประเทศอิตาลีในฤดูกาลนี้แทน ซึ่งอินเตอร์ มิลานก็กำลังสร้างทีมเพื่อที่จะไปแย่งแชมป์กับยูเวนตุสในฤดูกาลต่อไปด้วย
