ในศึกฟุตบอลลีกใหญ่ของยุโรปในฤดูกาลนี้ ดูเหมือนว่าจะมี 2 ลีกที่จะเป็นการแย่งลุ้นแชมป์กันเองระหว่างคู่ปรับร่วมเมือง ไม่ว่าจะเป็นในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ที่ฤดูกาลนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการแย่งแชมป์กันเองของ 2 ทีมจากเมืองมิลาน ระหว่างทีมฟอร์มแรงในฤดูกาลนี้อย่างเอซี มิลาน และอินเตอร์ มิลานนั่นเอง ส่วนแชมป์เก่าอย่างยูเวนตุสที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในฤดูกาลนี้นั้นฟอร์มตกลงไปจนทำให้ตอนนี้มีคะแนนตามหลัง 2 ทีมจากเมืองมิลานอยู่เกือบ 10 คะแนนเลยทีเดียว และแม้ว่าฤดูกาลจะยังอยู่อีกยาวไกลก็ตาม แต่ก้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทีมที่มีกุนซือมือใหม่อย่างอันเดรีย ปิร์โล่คุมทีมอยู่ในเวลานี้ที่จะไล่ตามได้ทันเพื่อหวังลุ้นแชมป์สคูเด็ตโต้สมัยที่ 10 ติดต่อกัน
ในศึกลา ลีก้าสเปนฤดูกาลนี้ก็เช่นกัน ที่ดูเหมือนการลุ้นแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้น่าจะเป็นของ 2 ทีมจากกรุงมาดริด โดยในตอนนี้เป็นการเบียดแย่งจ่าฝูงกันรายสัปดาห์ของเรอัล มาดริด และแอตเลติโก มาดริดไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากบาร์เซโลน่า ทีมคู่ปรับสำคัญของเรอัล มาดริด และขาประจำในการลุ้นแชมป์ในแต่ละฤดูกาลนั้นมีผลงานที่ตกลงไปในฤดูกาลนี้ ทำให้ตอนนี้พวกเขามีคะแนนตามหลัง 2 ทีมจากเมืองหลวงของสเปนอยู่หลายคะแนนทีเดียว ทำให้โอกาสที่พวกเขาจะกลับมามีลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้นั้นค่อนข้างยากทีเดียว แต่ก็ถือว่าน่าจะเป็นสีสันที่แปลกใหม่ของวงการฟุตบอลแดนกระทิงดุเลยก็ว่าได้ แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ใช่คู่ปรับตลอดกาลกันก็ตาม และแม้ว่าการแย่งแชมป์ของ 2 คู่ปรับตลอดกาลอย่างบาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริดจะน่าสนใจกว่าก็ตาม แต่ในฤดูกาลนี้ทีม “ตราหมี” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และคู่ควรแล้วที่พวกเขาจะได้มีโอกาสลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะในเกมรับของพวกเขาที่เสียประตูน้อยมากในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ยอดกุนซือชาวอาร์เจนไตน์อยู่แล้วด้วย ซึ่งกลายเป็นจุดแข็งของพวกเขาในการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ ส่วนทางด้านของแชมป์เก่าอย่างทีม “ราชันย์ชุดขาว” ที่แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้นยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมเป็นหลัก โดยมีซีเนอดีน ซีดานเป็นกุนซือตามเดิม ซึ่งแม้ว่าเรอัล มาดริดจะไม่ได้หวือหวาเหมือนหลายฤดูกาลก่อน แต่พวกเขาก็สามารถเอาตัวรอด และเก็บชัยชนะได้ตามเป้าหมายเสมอ แม้จะไม่ได้สวยงามนักก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็น 2 ทีมที่น่าจะได้ลุ้นแชมป์ลา ลีก้าสเปนกันยาวๆ ในฤดูกาลนี้