ในศึกลา ลีก้าของสเปนฤดูกาลนี้นั้นเป็นการขับเขี้ยวแย่งแชมป์กันอยู่อย่างสนุกสูสี กับ 2 มหาอำนาจลูกหนังของวงการฟุตบอลแดนกระทิงดุ ระหว่างบาร์เซโลน่า กับเรอัล มาดริด ที่มีคะแนนห่างกันเพียงแต้มเดียวเท่านั้นก่อนที่จะมีการหยุดเตะหนีโควิด-19 ไป
ซึ่งถือว่าเป็นการกลับมาลุ้นแชมป์ลีกแบบเต็มตัวครั้งแรกของทีม “ราชันย์ชุดขาว” เลยก็ว่าได้ หลังจากที่พวกเขาคว้าแชมป์ครั้งล่าสุดไปเมื่อปี 2017 ที่มีซีเนอดีน ซีดาน ยอดกุนซือชาวฝรั่งเศสคุมทีม เพราะหลังจากนั้นมาพวกเขาแทบไม่ได้ลุ้นแชมป์เลยด้วยซ้ำ
ทำให้แชมป์ตกเป็นของคู่ปรับสำคัญอย่างบาร์เซโลน่าที่มีเออร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ คุมทีม อย่างง่ายดายถึง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน
แม้ว่าเรอัล มาดริดจะไปประสบความสำเร็จในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ฤดูกาลติดต่อกันก็ตาม โดยจากผลการแข่งขันทั้ง 2 นัดในศึกเอล กลาซิโก้ในฤดูกาลนี้นั้นความได้เปรียบตกเป็นของทีม “ราชันย์ชุดขาว” แบบเต็มๆ เมื่อพวกเขาบุกไปยันเสมอที่คัมป์ นูได้ 0-0 แบบน่าชนะด้วยซ้ำ และกลับมาเอาชนะได้ที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว 2-0 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขากุมความได้เปรียบในเรื่องของเฮด ทู เฮดอยู่
หากว่าจบฤดูกาลนี้ด้วยคะแนนที่เท่ากัน เรอัล มาดริดจะได้แชมป์ลา ลีก้าไปครอง แต่หากสถานการณ์ยังเป็นอยู่แบบนี้ต่อไป คือบาร์เซโลน่ายังมีคะแนนนำอยู่แบบนี้ ทั้ง 2 นัดที่พวกเขาทำได้ดีมาแทบจะไม่มีประโยชน์เลย หากว่าสุดท้ายแล้วเรอัล มาดริดไปพลาดท่าทำคะแนนหกให้กับทีมอื่นๆ เหมือนช่วงที่ผ่านมา ที่จู่ๆ ก็สะดุดแพ้ให้กับเรอัล เบติส เลบานเต้ และเสมอกับเซลต้า บีโก้ ในช่วง 5 นัดสุดท้ายก่อนที่จะหยุดพักเบรคไป
ส่วนทางบาร์เซโลน่าที่นำโดยกิเก้ เซเตียนนั้นถึงแม้ว่าจะเก็บชัยชนะได้นัดละลูกก็ตาม แต่สุดท้ายพวกเขาก็คว้าชัยชนะมาครองได้หมด และพวกเขาพลาดท่าให้กับทีมใหญ่เท่านั้น ทำให้พวกเขาโกยคะแนนกลับมานำเป็นจ่าฝูงได้สำเร็จด้วยการนำหน้าเรอัล มาดริดอยู่ 2 คะแนน
แต่ก่อนที่จะลุ้นการแย่งแชมป์ลา ลีก้าในฤดูกาลนี้นั้น ก่อนอื่นคงจะต้องลุ้นก่อนว่าลีกลา ลีก้าของประเทศสเปนนั้นจะสามารถกลับมาแข่งขันในช่วงที่เหลือของฤดูกาลต่อได้หรือไม่ เพราะว่าประเทศสเปนนั้นถือว่าเป็นประเทศหนึ่งในทวีปยุโรปที่มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 มากที่สุดประเทศหนึ่งเลยทีเดียว แม้ว่าตอนนี้จะเบาลงไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ถือว่ายังไว้วางใจไม่ได้ เพราะตอนนี้มีหลายลีกที่เริ่มนำร่องการตัดจบฤดูกาลไปเรียบร้อยแล้ว
