แม้ว่าจะอายุ 34 ปีแล้ว แต่ว่าโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสก็ยังได้อยู่กับสโมสรที่เป็นทีมชั้นนำของศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างเชลซีอยู่ในฤดูกาลนี้ และแม้ว่าเขาจะต้องเป็นตัวสำรองเป็นหลักในช่วงที่ผ่านมา
แต่อดีตกองหน้าของอาร์เซน่อลรายนี้ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ายังคงมีพิษสงค์ และประโยชน์กับทีมเป็นอย่างยิ่งในยามที่ได้โอกาสลงสนามให้กับทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” ในฤดูกาลนี้ แม้ว่าโอกาสในการลงสนามของเขาจะน้อยกว่าเมื่อฤดูกาลที่แล้วมากก็ตาม
เมื่อเชลซีมีนักเตะใหม่ในแดนหน้าอย่างติโม แวร์เนอร์ที่ย้ายมาเป็นตัวหลักในแดนหน้า แถมยังมีแทมมี่ อบราฮัม กองหน้าอนาคตไกลที่ร่างกายยังสดกว่าเขาเยอะ ทำให้ชิรูด์กลายเป็นตัวเลือกที่ 3 ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าของแฟรงค์ แลมพาร์ดในฤดูกาลนี้ ซึ่งโอกาสลงสนามของชิรูด์ถือว่าน้อยมาก โดยจะได้เล่นในเกมฟุตบอลถ้วยเป็นหลัก หรือไม่ก็เป็นตัวสำรองในยามที่ทีมต้องการประตูเสียมากกว่า
และแม้ว่านับตั้งแต่ที่โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ย้ายมาอยู่กับเชลซีแล้วจะต้องกลายเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้งก็ตาม แต่เขาก็ยังคงมีชื่ออยู่ในทีมชาติฝรั่งเศสในยุคที่มีดิดิเย่ร์ เดช็องส์ ยอดกุนซือผู้พาฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2018 อยู่ตลอด และบางโอกาสก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับทีมชาติด้วยซ้ำ ส่วนบางเกมก็อาจจะเป็นตัวสำรองของอ็องตวน กรีซมันน์ หรือว่าคิลิยัน เอ็มบัปเป้แล้วแต่โอกาส แต่ว่าสุดท้ายแล้วทักษะ และความสามารถของโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ยังถือว่ามีประโยชน์ต่อทีมที่เขาอยู่เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะกับเชลซี หรือว่าทีมชาติฝรั่งเศสก็ตาม เพราะว่าชิรูด์ยังสามารถเป็นกองหน้าที่เก็บบอล และพักบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ แถมยังมีประโยชน์จากรูปร่างที่สูงใหญ่ในการเล่นลูกกลางอากาศ และลูกตั้งเตะอีกด้วย ทำให้เขายังคงเป็นนักเตะที่หลายๆ ทีมยังต้องการอยู่ในเวลานี้ เพราะด้วยสไตล์การเล่น และประโยชน์ของเขายังสามารถช่วยอีกหลายทีมได้เป็นอย่างยิ่ง แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะค้าแข้งในถิ่นสแตนฟอร์ด บริดจ์ต่อไปในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะรู้ทั้งรู้ว่าโอกาสที่เขาจะลงสนามนั้นจะน้อยลงจากเดิมมากก็ตาม แต่อย่างน้อยการได้เล่นอยู่กับเชลซีเขาก็ยังได้เล่นในศึกระดับสูงอย่างศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยังอยู่ในสายตาของดิดิเย่รต์ เดช็องส์ ทำให้โอกาสถูกเรียกติดทีมชาติในศึกยูโรหลังจบฤดูกาลนี้ หรือแม้แต่ฟุตบอลโลกในปี 2022 ยังถือว่ามีโอกาสมากทีเดียว
