ช่วงลำบากของ “ตราหมี”

ขอบสนามวิเคราะห์เกมส์

ทีม “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำของศึกลา ลีก้าสเปนมาตั้งแต่ที่พวกเขาแต่งตั้งดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กองกลางพันธุ์ดุชาวอาร์เจนไตน์รายนี้เข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2011 ซึ่งก่อนหน้านี้แอตเลติโก มาดริดเป็นทีมที่มีผลงานผีเข้าผีออกมาโดยตลอดในตอนนั้น

แต่หลังจากนั้นมาพวกเขาถือว่าเป็นรองเพียงแค่บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริดเท่านั้นในวงการฟุตบอลสเปน และพวกเขาสามารถก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์ลา ลีก้าได้สำเร็จด้วยในฤดูกาล 2013-2014 ที่สามารถแย่งแชมป์มาจากบาร์เซโลน่าได้ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ด้วยการบุกไปยันเสมอทีม “เจ้าบุญทุ่ม” ที่คัมป์ นูได้ในนัดสุดท้าย

และนอกจากนั้น “เอล โชโร่” ยังสามารถทำให้แอตเลติโก มาดริดผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้ถึง 2 ครั้งด้วยในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ต้องไปตายด้วยน้ำมือของเรอัล มาดริด ทีมคู่ปรับร่วมเมืองทั้ง 2 ครั้งอย่างน่าเจ็บไป ทำให้พวกเขาไปได้แชมป์ยูโรป้า ลีกเมื่อปี 2018 แค่ถ้วยเดียวเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามดิเอโก้ ซิเมโอเน่ก็ได้รับการยกย่องอยู่ดี เพราะพวกเขารั้งอันดับที่ 3 ของศึกลา ลีก้าสเปนได้เป็นอย่างน้อยมาตลอดในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้ทีมได้โควตาไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาหลายปีติดต่อกันแล้ว จนทำให้ทีมได้เงินไปสร้างสนามแห่งใหม่เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย

แต่ในฤดูกาลนี้ผลงานของแอตเลติโก มาดริดกลับไม่ดีเหมือนที่ผ่านมา แม้ว่าในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทีมจะสามารถเอาชนะลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้แล้วก็ตาม แต่ผลงานในศึกลา ลีก้าสเปนของพวกเขานั้นกลับไม่ดีนัก และต้องตกมาอยู่อันดับที่ 6 ของตารางคะแนนเสียด้วยซ้ำในช่วงที่หยุดพักการแข่งขันไปนี้ เมื่อมาถูกเซบีญ่า เรอัล โซเซียดาด และเกตาเฟ่แซงขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้พวกเขาสุ่มเสี่ยงต่อการที่จะอดไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลหน้าด้วย ซึ่งในฤดูกาลนี้แอตเลติโก มาดริดมีปัญหาในการทำประตูเป็นอย่างมาก หลังจากที่ต้องเสียอ๊องตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสไปให้กับบาร์เซโลน่าในช่วงต้นฤดูกาล แม้ว่าพวกเขาจะไปคว้าชูเอา เฟลิกซ์ กองหน้าดาวรุ่งมาจากเบนฟิก้ามาเป็นตัวแทนได้ก็ตาม แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถทดแทนได้แต่อย่างใด ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของทีม “ตราหมี” ในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว