ในแต่ละสโมสรยักษ์ใหญ่ก็มักจะมีการเซ็นต์สัญญาที่ผิดพลาดให้เห็นเป็นประจำ ซึ่งเกิดขึ้นได้หลากหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อนักเตะเข้ามาร่วมทีม แล้วไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการเล่นของทีม หรือไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การเล่นของลีกนั้นๆ ได้ ก็จะทำให้นักเตะที่ทีมยักษ์ใหญ่ซื้อมาร่วมทีมนั้นเป็นการซื้อตัวที่ล้มเหลว หรือว่าจะเป็นการต่อสัญญาที่ผิดพลาดก็เช่นเดียวกัน ซึ่งในตอนนี้ก็มีให้เห็นหลายคนทีเดียวที่พอได้สัญญาฉบับใหม่ที่มีค่าเหนื่อยมหาศาลแล้ว นักเตะเหล่านั้นกลับไม่มีแรงจูงใจในการเล่น และฟอร์มตกลงอย่างรวดเร็วทันที ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลเท่านั้น แต่วงการกีฬาอเมริกันเกมส์นั้นมีให้เห็นเป็นประจำกับเรื่องนี้
ตอนนี้มีนักเตะหลายคนทีเดียวที่เป็นภาระสำหรับทีมยักษ์ใหญ่ และยังได้เงินก้อนโตเป็นค่าเหนื่อย แต่กลับไม่ต้องลงสนามช่วยทีมเลยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งคนที่รับเงินก้อนโต และสบายที่สุดในเวลานี้ก็คือแกเร็ธ เบล ปีกวัย 30 ปีทีมชาติเวลส์ที่รับค่าเหนื่อยครึ่งล้านยูโรต่อสัปดาห์กับเรอัล มาดริดอยู่ในเวลานี้ และสัญญาของเขายังเหลือถึงกลางปี 2022 เลยทีเดียว ทำให้ทีม “ราชันย์ชุดขาว” ยังต้องแบกรับภาระการจ่ายค่าเหนื่อยให้กับโปรกอล์ฟรายนี้ถึง 50 ล้านยูโรเลยทีเดียวในช่วง 2 ปีต่อจากนี้ ซึ่งเป็นเงินที่พวกเขาจะเสียเปล่าด้วยซ้ำ เพราะว่าแกเร็ธ เบลนั้นไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของซีเนอดีน ซีดานมาอย่างยาวนานแล้ว และด้วยค่าเหนื่อยมหาศาลแบบนี้ก็ทำให้ไม่มีทีมไหนกล้าที่จะมาเซ้งตัวเขาไปร่วมทีมอย่างแน่นอนในช่วงที่เกิดโควิด 19 แบบนี้ด้วย
ซึ่งนอกจากแกเร็ธ เบลแล้วนั้นก็ยังมีนักเตะคนอื่นๆ อีก อย่างเช่นเมซุต โอซิล อดีตเพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งของอาร์เซน่อลที่หลังจากเปลี่ยนกุนซือมาเป็นมิเกล อาร์เตต้าแล้ว เขาหลุดจากโผตัวเลือกในการส่งลงสนามของกุนซือชาวสเปนทันที และเขายังรับค่าเหนื่อยมากที่สุดของอาร์เซน่อลในเวลานี้ด้วยที่ 3.5 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์
ซึ่งเป็นเงินก้อนโตที่หากอาร์เซน่อลสามารถขจัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้ จะทำให้พวกเขาสามารถต่อสัญญานักเตะคนสำคัญของทีมในตอนนี้อย่างปิแอร์ อเมริค โอบาเมยังได้อย่างสบายๆ และยังมีงบค่าเหนื่อยเหลือสำหรับจ่ายให้กับนักเตะใหม่ที่พวกเขาจะดึงมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย ซึ่งนักเตะเหล่านี้ถือว่าเป็นปัญหาของทีมยักษ์ใหญ่ในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 อย่างหนักในตอนนี้เลยทีเดียว
