การพบกันของคู่นี้จะแข่งขันกันในวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 5 ทุ่มครึ่งตามเวลาประเทศไทย ซึ่งการพบกันในตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเกมเยือนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่พวกเขาถือว่าอยู่ในช่วงที่กำลังฟอร์มสุดยอดมากๆ ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิลคาย กุนโดกัน กองกลางดีกรีทีมชาติเยอรมันที่ทำประตูเป็นว่าเล่นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้การขาดเซร์คิโอ อเกวโร่ กุนในแดนหน้านั้นแทบไม่มีความหมายกับทีม “เรือใบสีฟ้า” เลยในช่วงที่ผ่านมา แถมในฤดูกาลนี้พวกเขายังปรับปรุงเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่ได้รูเบ็น ดิอาส ปราการหลังทีมชาติโปรตุเกสเข้ามาร่วมทีม ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ซึ่งด้วยฟอร์มการเล่นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในตอนนี้ ทำให้การเล่นในบ้านของอาร์เซน่อลในเกมนี้นั้นดูจะไม่ได้ทำให้พวกเขาดูมีความหวังมากขึ้นเท่าไหร่นัก เพราะทีมรองแชมป์เก่านั้นดูเหมือนจะเล่นได้อย่างมั่นใจ และลงตัวสุดๆ ในตอนนี้
ซึ่งผลงานการพบกัน 6 นัดหลังสุดนั้นก็เป็นทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ข่มมิด โดยพวกเขาเอาชนะได้ถึง 5 นัด และแพ้ให้กับอาร์เซน่อลไปเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น คือเมื่อช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วนั่นเอง ที่บุกมาแพ้ที่เอมิเรต สเตเดี้ยมไป 0-2 ส่วนในฤดูกาลนี้ทั้ง 2 ทีมก็เจอกันไปแล้ว 2 นัด และเป็นทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เก็บชัยชนะได้ทั้ง 2 นัด โดยเกมแรกเป็นศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งซิตี้เปิดรังเฉือนชนะไปได้ 1-0 จากราฮีม สเตอร์ลิ่ง ส่วนอีกเกมเป็นศึกคาราบาว คัพ ซึ่งอาร์เซน่อลก็แพ้คาบ้านไปเมื่อปลายปีที่แล้ว 1-4 ซึ่งทีมของเป็ป กวาดิโอล่าอาจจะมีเรื่องกังวลใจเล็กน้อยตรงที่หลังจบเกมนี้พวกเขามีคิวจะบุกไปเยือนโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัคในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในช่วงกลางสัปดาห์ ทำให้อาจจะมีการหมุนเวียนนักเตะลงสนามก็เป็นได้ แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของเต็งแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้เท่าไหร่นัก เพราะที่ผ่านมากุนซือชาวสเปนก็โรเตชั่นนักเตะกันลงสนามอยู่ตลอดอยู่แล้ว ทำให้เกมนี้กลายเป็นงานยากของเจ้าถิ่นอาร์เซน่อลเสียมากกว่า เพราะว่าพวกเขามีเกมกลางสัปดาห์ในศึกยูโรป้า ลีกขนาบทั้งหน้า และหลังเกมนี้ด้วย ซึ่งทำให้มิเกล อาร์เตต้าอาจจะไปเสียสมาธิกับเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปก็เป็นได้ เพราะถือว่าเป็นทางลัดทางหนึ่งที่มีโอกาสจะได้ไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลหน้า
