“รุมเมนิกเก” สวดยับแฟน “เสือใต้” ทำป่วน ชี้เป็นพวกหยาบคายไร้สาระ

ฟุตบอลต่างประเทศ

วันนี้ (อาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2563) คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก ประธานบริหารของ บาเยิร์น มิวนิก มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ออกโรงตำหนิพฤติกรรมของแฟนบอล “เสือใต้” ในเกมลีกนัดที่ทีมบุกถล่ม ฮอฟเฟนไฮม์ 6-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่น่าละอายสุด ๆ หลังแฟนบอลทีมเยือนกลุ่มหนึ่งก่อเรื่องแขวนป้ายผ้าที่มีข้อความด่า ดีทมาร์ ฮอปป์ ประธานสโมสรของทีมเจ้าถิ่นด้วยคำหยาบคาย จนเกมต้องหยุดไปชั่วขณะ

ในเกมดังกล่าว แฟนบอลทีมเยือนมีการแขวนป้ายผ้าที่มีข้อความด่าทอประธานสโมสรฮอฟเฟนไฮม์ดังกล่าว หลังทีมขึ้นนำ 6-0 ร้อนถึง ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ผู้จัดการทั่วไป รวมถึง ฮันซี ฟลิค ผู้เป็นเทรนเนอร์ และบรรดานักเตะของ “เสือใต้” ต้องไปขอร้องให้เอาป้ายดังกล่าวลง แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็มีการแขวนป้ายที่มีข้อความในทำนองเดียวกันอีก จน บาสเตียน ดันเคิร์ต ผู้ตัดสินต้องหยุดเกมชั่วคราวและเรียกนักเตะทั้ง 2 ทีมเข้าห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว ก่อนจะมีการควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และทั้ง 2 ทีมกลับมาลงเล่นกันในช่วง 13 นาทีที่เหลือ โดยที่นักเตะทั้ง 2 ฝ่ายไม่เปิดเกมบุกใส่กันจนกระทั่งหมดเวลา เพื่อแสดงออกถึงการหนุนหลัง ดีทมาร์ ฮอปป์ รวมถึงแสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าวของแฟนบอล

ด้าน รุมเมนิกเก ซึ่งเป็นประธานบริหารของ “เสือใต้” ซึ่งตรงเข้าไปขอโทษ ฮอปป์ ทันทีหลังจบเกมนั้น กล่าวว่า “ผมรู้สึกละอายกับพฤติกรรมอันหยาบคายของแฟนบอลพวกนี้ อย่างเดียวที่ผมบอกได้คือ บุนเดสลีกา เดเอฟเบ (สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมนี) และ เดเอฟแอล (ฟุตบอลลีกเยอรมนี) ต้องทำอะไรสักอย่างกับแฟนบอลหยาบคายพวกนี้ มันเป็นเรื่องน่าเกลียดในวงการฟุตบอล ผมต้องขอโทษชายผู้มีเกียรติอย่าง ดีทมาร์ ฮอปป์ ด้วย เขาทำเพื่อวงการฟุตบอลและวงการกีฬาในเมืองนี้มามากมาย ผมขอโทษเขาไปแล้ว แม้เขาจะไม่ได้โทษเราก็ตาม นี่คือเรื่องราวอันน่ารังเกียจของ บาเยิร์น มิวนิก มันเป็นเกมที่ดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายมันเป็นความผิดโดยไร้ข้อแก้ตัว และเราจะดำเนินการกับกับคนที่ก่อเรื่องนี้”

ด้าน “สกาย เยอรมนี” สื่อกีฬาในเมืองเบียร์ รายงานว่า สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมนี (เดเอฟเบ) เตรียมดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ หลังจากได้รับแจ้งจากทั้ง 2 สโมสรว่ามีการบันทึกทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวของบรรดาแฟนบอลกลุ่มที่ก่อเรื่องเอาไว้หมดแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการแข่งขันน่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่เป็นข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากในทางเทคนิคได้ถือว่าเกมนี้แข่งขันจบอย่างเป็นทางการไปแล้ว

เครดิตภาพ : REUTERS, AFP