วันนี้ (8 มีนาคม 2563) ลิเวอร์พูล ขยับเข้าใกล้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปทุกขณะ หลังล่าสุดเปิดบ้าน แซงเอาชนะ บอร์นมัธ 2-1 ทำให้ตอนนี้มีคะแนนทิ้งห่าง แมนฯซิตี้ เป็น 25 คะแนน ลงเล่นมากกว่า 2 นัด แต่”หงส์แดง”ขอชนะอีก 3 นัด เท่านั้น ก็จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ทันที
“หงส์แดง”เริ่มต้นเกมได้แย่ แต่กลับสู่เกมได้ไว
เกมนี้เป็นอีกเกมที่ ลิเวอร์พูล เริ่มต้นเกมได้ไม่ดี หลังต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนจากการที่มาถูก คัลลัม วิลสัน ยิงประตูในนาทีที่ 9 ทำให้เกมเหมือนจะตกเป็นรองอย่างหนัก แต่การที่ไม่เสียประตู ที่ 2 ทำให้ “หงส์แดง”ยังสามารถกลับคืนสู่เกมได้ หลังจากที่ บอร์นมัธ ต้องเปลี่ยนตัว เมื่อต้องส่ง แจ็ค ซิมป์สัน ที่ได้ลงสนามแทนที่ สตีฟ คุ๊ก ที่บาดเจ็บ แล้วก็เป็น ซิมป์สัน เป็นคนทำพลาด จนโดน ซาดิโอ มาเน่ ฉกบอลก่อนไหลให้ โม ซาลาห์ ยิงประตูตีเสมอ ในนาทีที่ 25 ก่อนที่ในอีก 8 นาทีต่อมา จะเป็น ซาดิโอ มาเน่ ที่มายิงให้ทีมแซงขึ้นนำตั้งแต่ครึ่งเวลาแรก
เกมรับดีขึ้นหลังได้ โกเมซ กลับมาคู่ ฟาน ไดจ์ค
วันนี้ เกมรับของทีมทำหน้าที่ได้ดีขึ้น หลังจากเกมที่แล้ว พ่ายต่อ วัตฟอร์ด 0-3 มาในเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกใช้ โจ โกเมซ กลับลงมาจับคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค เปลี่ยนเพียงตำแหน่งเดียวก็คือ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ใช้ เจมส์ มิลเนอร์ ลงสนามแทน วันนี้แผงหลัง”หงส์แดง”ทำหน้าที่ได้ขึ้นกว่าเกมที่แล้ว เพราะทั้ง โกเมซ และ ฟาน ไดจ์ค นั้น ต่างรู้ใจและเข้าขากันได้ เพราะในช่วงหลังทั้งคู่มักถูกส่งลงสนามในฤดูกาลนี้บ่อยครั้ง และหากไม่มีใครเจ็บและแบนก็จะได้ลงเล่นกันต่อเนื่อง และมักทำผลงานได้ดี และอีกคนที่พูดถึงไม่ได้ก็คือ เจมส์ มิลเนอร์ ที่ทำหน้าที่ในเกมรับได้ดีเยี่ยม แถมยังวิ่งไปสะกัดบอลที่กำลังจะเข้าประตูได้อีก
หลังพ่ายแพ้ กลับคืนสู่ฟอร์มได้ดี แถมขอเฮอีก 3 เกม ก็ถึงบัลลังก์แชมป์
เกมที่แล้วเป็นอะไรที่ฝั่ง”หงส์แดง”ไม่สามารถต่อกรได้เลย เพราะทั้งเกม วัตฟอร์ด ทำหน้าที่ได้ดีทุกจุด แต่ในวันนี้ ที่ฝั่ง ลิเวอร์พูล ได้กลับมาลงเล่นในบ้าน แถมเหมือนมีพลังแฝง ที่ต้องการชนะเพื่อ ขอโทษจากความผิดพลาดในเกมที่แล้ว และวันนี้แม้จะต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อน แต่ดูแล้วลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ขยันวิ่งเต็มที่เพื่อหวังจะเก็บชัยให้ได้ แถมอะไรๆก็ดูเป็นใจไปหดม ตั้งแต่ บอร์นมัธ ไม่ได้ประตูที่ 2 ต่อด้วย นักเตะบาดเจ็บ คนที่ลงมาเล่นแทนทำพลาด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ จนทีมกลับคืนสู่เกม แถมเกมรับยังทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมอีกด้วย
ตอนนี้ต้องบอกตามเนื้อผ้าว่า ลิเวอร์พูลต้องการอีก 9 คะแนน เท่านั้น โดยยังไม่ต้องสนใจผลงานของ แมนฯ ซิตี้ ก็เพียงพอจะทำให้”หงส์แดง”กลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ทันที แต่ถ้าเกิด “เรือใบสีฟ้า”กลับออกจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยผลการแข่งขันที่ไม่ชนะละก็ คงพูดได้อย่างเดียวว่า ลิเวอร์พูล งานจะน้อยลง เหลือแค่ 2 เกมเท่านั้น แถมโปรแกรมหน้า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะนำลูกทีมบุกเยือน เอฟเวอร์ตัน ดูแล้ว อย่างแย่ก็คงมีแต้มติดมือกลับออกมา จะอยู่ที่ว่า 1 หรือ 3 เท่านั้น
