“เสือใต้” สมมงฯ ทุกประการ

ขอบสนามวิเคราะห์เกมส์

จบไปเรียบร้อยแล้วสำหรับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลล่าสุดที่ต้องล่าช้ามาจนถึงปลายเดือนสิงหาคมเลยทีเดียว ซึ่งสุดท้ายก็เป็นทางบาเยิร์น มิวนิค ทีมแชมป์บุนเดสลีก้า 8 สมัยติดต่อกัน ก็สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยรายการใหญ่ของสโมสรยุโรปมาครองได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมดังของประเทศฝรั่งเศสได้ในรอบชิงชนะเลิศ 1-0

ด้วยประตูของคิงส์ลี่ย์ โกม็อง ปีกทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งก็เป็นนักเตะเก่าของปารีส แซงต์ แชร์กแมงเองด้วย ซึ่งมาทำประตูชัยได้ในช่วงครึ่งหลัง และทำให้ทีม “เสือใต้” คว้าแชมป์รายการนี้สมัยที่ 6 ไปครองได้สำเร็จ และทำให้พวกเขาคว้าทริปเปิ้ล แชมป์ในฤดูกาลนี้ได้อีกด้วย เพราะว่านอกจากรายการนี้แล้ว ลูกทีมของฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิกค์ยังสามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีก้า และเดเอฟเบ โพคาลมาครองได้อีกด้วย ซึ่งในรายของคิงส์ลี่ย์ โกม็องถือว่าเป็นนักเตะประวัติศาสตร์คนหนึ่งเลยทีเดียว เพราะว่าเขาคว้าแชมป์ลีกมาติดต่อกันถึง 9 ปีเข้าไปแล้ว แม้ว่าจะอยู่กับ 3 สโมสรก็ตาม เริ่มจากปารีส แซงต์ แชร์กแมงที่เป็นแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน ต่อด้วยกับยูเวนตุสในอิตาลีอีก 2 ปี และล่าสุดก็คือกับบาเยิร์น มิวนิคอีก 5 สมัยนั่นเอง

ทีม “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิคโชว์ฟอร์มโหดมาตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการถล่มเชลซีในนัดที่ 2 ถึง 4-1

และพอเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายก็ทำเรื่องช็อคโลกด้วยการถล่มบาร์เซโลน่า ยอดทีมของสเปนถึง 8-2 ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นทีมเต็งแชมป์ตั้งแต่นั้นมา และสุดท้ายก็เข้ารอบมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศ และก็เอาชนะ 2 ทีมจากฝรั่งเศสทั้งโอลิมปิก ลียง และปารีส แซงต์ แชร์กแมงได้แบบไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว

ซึ่งคนที่ต้องให้เครดิตแบบเต็มเหนี่ยวกับผลงานของบาเยิร์น มิวนิคในฤดูกาลนี้ก็คือฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิกค์ กุนซือคนใหม่วัย 55 ปีนั่นเอง ซึ่งเขาเข้ามารับงานคุมทีมต่อจากนิโก้ โควัชในช่วงกลางฤดูกาล ซึ่งตอนเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วผลงานของทีมนั้นไม่ได้ดีแต่อย่างใด ทำให้กุนซือชาวโครเอเชียต้องโดนปลดจากตำแหน่ง แต่หลังจากที่กุนซือรายนี้เข้ามาคุมทีม บาเยิร์น มิวนิคก็เปลี่ยนไปเป็นคนละทีม โดยเฉพาะหลังจากที่กลับมาจากช่วงเบรกหนีหนาว ซึ่งหลังจากนั้นมาพวกเขาเล่นกันได้สมฉายา “เสือใต้” อย่างแท้จริง โดยเฉพาะแนวรุกที่ดุดันของพวกเขา และการไล่เพรสซิ่งกดดันคู่แข่งแบบไม่ให้หายใจ ซึ่งทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จสูงสุดในฤดูกาลนี้ ซึ่งแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเป็นรายการที่พวกเขาหวังมานาน แต่ก่อนหน้านี้ต้องจอดป้ายด้วยน้ำมือจาก 2 ยอดทีมของสเปนอย่างเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่ามาโดยตลอด