พรีวิวลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 เวลา 22.30 น.)

Exclusive ขอบสนามวิเคราะห์เกมส์

พรีวิวลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 เวลา 22.30 น.)

เกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลคาราบาว คัพ ที่จะเล่นกันที่เวมบลี่ย์ระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พึ่งผิดหวังตกรอบรองชนะเลิศในศึกเอฟเอ คัพไปหมาดๆ จะพบกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทีมที่พึ่งมีการปลดยอดกุนซืออย่างโชเซ่ มูรินโญ่ไปช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวลือมากมาย ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดของทีมบริหารของสเปอร์ที่มาปลดกุนซือก่อนเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยแบบนี้ ซึ่งคนที่จะขึ้นมาคุมทีมแทนก็คือไรอัน เมสัน ที่เป็นโค๊ชทีมเยาวชนของสโมสรที่จะเข้ามาคุมทีมขัดตาทัพไปจนถึงเดือนมิถุนายนนี้ ทำให้เกมนี้ทีม “ไก่เดือยทอง” ยิ่งดูเป็นรองแมนเชสเตอร์ ซิตี้เข้าไปใหญ่ จากเดิมที่ก็เป็นรองอยู่พอสมควรแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามฟุตบอลเกมเดียวแบบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน และทีม “เรือใบสีฟ้า” ก็พึ่งพลาดท่าแพ้เชลซีในรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพที่เวมบลี่ย์มาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เกมนี้โอกาสพลิกล็อคยังพอมีเหลืออยู่บ้าง หากว่าทางท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์เรียนรู้ และวางแผนการเล่นให้ได้อย่างที่เชลซีใช้โค่นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเกมสัปดาห์ที่ผ่านมาได้

สถิติการพบกันในช่วง 6 นัดหลังสุดนั้นเป็นทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย โดยชนะไปได้ 3 ครั้ง แต่ก็พลาดท่าแพ้ให้กับสเปอร์ไป 2 ครั้งเช่นกัน ซึ่งการพบกันในฤดูกาลนี้ก็ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะกันไปทีมละครั้ง  หากมองจากสถิติเหล่านี้อาจจะไม่ใช่งานง่ายของลูกทีมเป็ป กวาดิโอล่าเท่าไหร่นัก แต่พวกเขาพึ่งจะผิดหวังจากการตกรอบเอฟเอ คัพมาหมาดๆ และเกมนี้พวกเขาต้องการชัยชนะ และคว้าแชมป์แรกของฤดูกาลนี้ให้สำเร็จ ส่วนทางฝั่งของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์นอกจากจะเสียกุนซือใหญ่ของทีมไป และต้องดันไรอัน เมสัน โค๊ชทีมเยาวชนเข้ามาคุมทีมขัดตาทัพแทนแล้ว แต่การเปลี่ยนกุนซือครั้งนี้อาจจะเป็นแรงกระตุ้นให้เหล่านักเตะกลับมาวิ่งสู้ฟัดเพื่อทีมอีกครั้ง หลังจากที่มีข่าวลือมาว่าการปลดกุนซือโปรตุกีสครั้งนี้มาจากนักเตะเริ่มหมดใจกับอดีตยอดกุนซือรายนี้แล้วด้วย ทำให้เกมนี้เหล่านักเตะอาจจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง และนั่นน่าจะเป็นสิ่งยืดเหนี่ยวจิตใจของทางฝั่งเสมอที่จะต่อสู้กับความแข็งแกร่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเกมนี้ เพราะดูจากประสบการณ์ และกึ๋นของกุนซือแล้วทางไรอัน เมสันที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการคุมทีมข้างสนามเลยด้วยซ้ำนั้นคงสู้ทางเป็ป กวาดิโอล่าไม่ได้อย่างแน่นอน