เกมบิ๊กแมตช์ประจำศึกเอฟเอ คัพรอบที่ 5 ในฤดูกาลนี้ คือการพบกันระหว่างเอฟเวอร์ตัน ที่จะเปิดรังกูดิสัน พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ซึ่งการเล่นในบ้านนั้นทำให้เอฟเวอร์ตันกุมความได้เปรียบไว้พอสมควรทีเดียว เพราะเอฟเอ คัพในฤดูกาลนี้เป็นการแข่งแบบนัดเดียวรู้ผล ไม่มีการแข่งนัดรีเพลย์เหมือนอย่างฤดูกาลก่อนๆ ทำให้หากเสมอกันในเวลา 90 นาที ก็จะทำการต่อเวลา และยิงจุดโทษตัดสินหาทีมชนะทันที โดยผลงานการพบกันของทั้ง 2 ทีมในช่วง 6 นัดหลังสุดนั้นเป็นทางสเปอร์ที่ทำได้ดีกว่า โดยเก็บชัยชนะไปได้ถึง 3 นัด และแพ้ให้ทางเอฟเวอร์ตันเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น แต่ว่าดันเป็นการแพ้ให้กับเกมล่าสุดที่พบกัน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา โดยทีม “ท็อฟฟี่” สีน้ำเงินบุกเอาชนะได้ถึงถิ่น 1-0 แต่นัดก่อนๆ หน้านี้นั้นทีม “ไก่เดือยทอง” มักจะทำผลงานได้ดีกว่า
ทั้ง 2 ทีมถือว่าเป็นทีมในกลุ่มที่ลุ้นโควตาไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลหน้าทั้งคู่ ซึ่งคะแนนของทั้ง 2 ทีมในตารางพรีเมียร์ลีกก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ทั้งคู่จะไม่ทิ้งฟุตบอลถ้วยรายการนี้อย่างแน่นอน และคงใส่กันเต็มที่เช่นเคย เพราะทั้ง 2 ทีมกำลังต้องการความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะก้าวขึ้นมามีบารมีในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ของโชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งการที่เขาได้เข้ามาคุมทีมสเปอร์ก็เป็นเพราะดาเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรของทีมต้องการกุนซือที่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จ และคว้าแชมป์มาครองได้นั่นเอง ซึ่งมูรินโญ่เป็นกุนซือที่พาทีมที่เขาคุมคว้าแชมป์มาได้ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ส่วนทางเอฟเวอร์ตันของคาร์โล อันเชล็อตติ ยอดกุนซือชาวอิตาเลี่ยนที่กำลังสร้างทีมใหม่ก็ต้องการประสบความสำเร็จเช่นกัน ซึ่งพวกเขาก็ดูเหมือนว่ากำลังมาถูกทางทีเดียวในตอนนี้ ซึ่งการพบกันในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงที่ทั้งคู่ผลงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะทางท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ของโชเซ่ มูรินโญ่ ที่ตอนแรกจากที่พวกเขาเคยก้าวขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอยู่พักหนึ่ง แต่ช่วงที่ผ่านมามีช่วงที่แพ้ในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันถึง 3 นัด ทำให้ต้องหล่นลงไปเกือบกลางตารางเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับมูรินโญ่แล้วเขาต้องการพาทีมคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นรายการไหนก็ตาม ก็เพื่อที่จะรักษาเก้าอี้กุนซือของทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า และรายการนี้ดูเหมือนจะเป็นรายการที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จได้ง่ายที่สุดแล้วในฤดูกาลนี้
