ดูเหมือนการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้จะเป็นงานที่ยากเสียแล้ว เมื่อพวกเขาต้องมาเสียเฟอร์กิล ฟาน ไดจค์ ปราการหลังตัวเก่งชาวดัตช์ที่ได้รับบาดเจ็บไปเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จนทำให้ในฤดูกาลนี้ยอดกองหลังคนสำคัญของทีมอาจจะไม่ได้กลับมาช่วยทีม “หงส์แดง” ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้แล้วด้วย ซึ่งทำให้ขุมกำลังในแนวรับของลิเวอร์พูลนั้นอ่อนลงทันที เพราะในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาพวกเขาพึ่งจะปล่อยตัวเดยัน ลอฟเรน ปราการหลังชาวโครเอเชียไปให้กับเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และในขณะเดียวกันเจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมันไม่ได้มีการเสริมกองหลังเข้ามาเป็นตัวแทนแต่อย่างใด
ทำให้ตอนนี้ลิเวอร์พูลจะเหลือกองหลังอาชีพที่เป็นนักเตะชุดใหญ่เพียง 2 คนเท่านั้น คือโจ โกเมซ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ
และโจเอล มาติปเท่านั้น ส่วนนอกนั้นก็ล้วนเป็นกองหลังดาวรุ่ง และอีกวิธีหนึ่งคือการจับฟาบินโญ่ กองกลางเชิงรับชาวบราซิลมายืนเป็นปราการหลังตัวกลางเป็นการชั่วคราว ซึ่งในส่วนของจำนวนกองหลังในเชิงลึกนั้นยังถือว่ายังไม่ได้ขาดแคลนแต่อย่างใด แต่ในเรื่องของคุณภาพนั้นการขาดเฟอร์กิล ฟาน ไดจค์ไปนั้น ทำให้ความแข็งแกร่งในแนวรับของทีมนั้นอ่อนลงอย่างมากทีเดียว
เรียกได้ว่างานเข้าเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือคนเก่งของทีมแบบเต็มๆ เมื่อเขาตัดสินใจที่จะไม่เสริมกองหลังใหม่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้ตัวเลือกแนวรับในตอนนี้นั้นเหลือตัวหลักเพียงโจ โกเมซ กับโจเอล มาติปเท่านั้น ซึ่งในรายของมาติปก็มักจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอด ทำให้อาจจะต้องดันดาวรุ่ง หรือขยับฟาบินโญ่มายืนแทนในบางนัด ซึ่งไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน และลิเวอร์พูลต้องรอไปถึงเดือนมกราคมเป็นอย่างน้อย หากว่าจะตัดสินใจทำการซื้อกองหลังรายใหม่เข้ามาแทน ซึ่งถึงตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าลิเวอร์พูลจะสามารถหากองหลังรายใหม่เข้ามาเสริมทีมได้หรือไม่ด้วย ซึ่งการที่จะหาใครที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนเฟอร์กิล ฟาน ไดจค์นั้นเป็นเรื่องที่ยากสุดๆ และแทบที่จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้ามาแทนที่กองหลังชาวดัตช์ได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะฟาน ไดจค์นั้นถือว่าเป็นคนที่แบกแนวรับของลิเวอร์พูลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เลยก็ว่าได้ เพราะเขามักจะแบกคู่ปราการหลังตัวกลางที่จับคู่กับเขาลงสนามได้อย่างดีมาโดยตลอด เรียกได้ว่าตอนนี้เป็นงานเข้า “หงส์แดง” ครั้งใหญ่เลยทีเดียว
