ในฤดูกาลนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีการดันนักเตะดาวรุ่งให้ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวอยู่ 2 รายคือเมสัน กรีนวู๊ด กองหน้าดาวรุ่ง และแบรนดอน วิลเลี่ยมส์ แบ็คดาวรุ่งของทีมที่สามารถเล่นได้ทั้งแบ็คซ้าย และแบ็คขวา ส่วนรายอื่นๆ นั้นทั้งตาฮิต ช็อง เจมส์ การ์เนอร์ หรืออังเจล โกเมสยังสลับไปเล่นให้กับทีมสำรองอยู่บ่อยครั้งในฤดูกาลนี้ ซึ่ง 2 รายแรกนั้นถือว่าเล่นกับทีมชุดใหญ่อย่างสม่ำเสมอในฤดูกาลนี้ ซึ่งถือว่าสามารถแจ้งเกิดได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในเวลานี้ และน่าจะอยู่กับทีมชุดใหญ่ถาวรแล้วหลังจากนี้
ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือชาวนอร์เวย์ของทีมวางไว้ คือการให้โอกาสกับนักเตะดาวรุ่งของทีมในการก้าวขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ตามรอยที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันวางเอาไว้ แต่นักเตะที่ถูกจับตามอง และถูกคาดหวังหลังจากนี้ของทีม “ปีศาจแดง” ก็คือเมสัน กรีนวู๊ด กองหน้าดาวรุ่งของทีมนั่นเอง ซึ่งในฤดูกาลนี้เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทำประตูรวมกันในทุกรายการเกิน 10 ประตูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าพึ่งจะอายุ 18 ปีเท่านั้น และยังคงเป็นดาวซัลโวของทีมในถ้วยยูโรป้า ลีกอีกด้วย
เมสัน กรีนวู๊ดนั้นถือว่าเป็นกองหน้าอย่างแท้จริง ซึ่งสถิติในช่วงที่เขาเล่นให้กับทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นถือว่าสุดยอดมาก และโหดกว่าตอนที่มาร์คัส แรชฟอร์ดเล่นให้กับทีมเยาวชนด้วยซ้ำ ทำให้แฟนบอล “เรด อาร์มี่” นั้นค่อนข้างคาดหวังกับเมสัน กรีนวู๊ดมากทีเดียวหลังจากนี้ ว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะระดับโลกได้สำเร็จ และควรจะไปได้ไกลกว่ามาร์คัส แรชฟอร์ดเสียด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะสถิติในการทำประตูที่เมสัน กรีนวู๊ดทำได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลแรกของเขากับทีมชุดใหญ่ ซึ่งเขาได้รับคำชมเป็นอย่างมากกับจังหวะการจบสกอร์ของเขาที่ไปละม้ายคล้ายคลึงกับโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ อดีตกองหน้าชาวดัตช์ของทีมที่มีจังหวะการสับไกด้วยเท้าซ้ายที่เฉียบคมเหมือนกัน ซึ่งฤดูกาลนี้กรีนวู๊ดทำให้เห็นเป็นประจำกับการซัดด้วยซ้ายเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ซึ่งหาได้ยากมากกับนักเตะดาวรุ่งที่จะมีการยิงประตูที่เฉียบขาดแบบนี้ แต่ดาวรุ่งวัย 18 ปีรายนี้ก็ยังมีจุดที่ต้องพัฒนาอีกหลายด้านเช่นกัน ทั้งความแข็งแกร่งของร่างกายที่ยังดูบอบบางเกินไป รวมถึงการทำประตูในรูปแบบอื่นๆ ทั้งการเข้าฮอร์ส หรือว่าการโหม่งทำประตู ซึ่งคงต้องดูกันว่าโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์จะทำให้เพชรเม็ดงามเม็ดนี้ไปได้ไกลแค่ไหน
