ตลาดการซื้อขายนักเตะในช่วงปิดฤดูกาลในปี 2020 นี้ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ทำให้ทีมต่างๆ ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการสูญเสียรายได้ไปหมด ทำให้ถูกคาดว่าตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ของปีนี้นั้นไม่น่าจะมีการซื้อขายนักเตะในดีลราคาแพงมากนักหลังจบฤดูกาลนี้ เพราะว่าบางทีมที่ต้องการเงินก็พยายามที่จะรีบปล่อยนักเตะออกจากทีมเพื่อนำเงินเข้ามาหมุนเวียนในสโมสร ทำให้บางทีพวกเขาก็อาจจะไม่สามารถโก่งค่าตัวได้มากนักด้วยระยะเวลาด้วย ซึ่งคาดว่าหากว่ามีการซื้อขายดีลใหญ่เกิดขึ้นจริง ราคาค่าตัวก็น่าจะไม่เว่อร์เหมือนกับตลาดก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน ที่ราคานักเตะนั้นสูงไปหลักร้อยล้านยูโรหลายคนเลยทีเดียว แต่ด้วยพิษเศรษฐกิจในวงการกีฬาช่วงนี้น่าจะทำให้ราคาค่าตัวนักเตะน่าจะกลับมาอยู่เกณฑ์สมเหตุสมผลอีกครั้งหนึ่ง
ในช่วงที่ลีกฟุตบอลในทวีปยุโรปหลายๆ ลีกก็ได้ตัดสินใจกันหมดแล้วว่าจะแข่งต่อ หรือว่าจะตัดจบฤดูกาล โดยในบรรดา 5 ลีกหลักของยุโรปนั้นมีเพียงลีก เอิงของประเทศฝรั่งเศสเท่านั้นที่ทำการตัดจบฤดูกาลไปเรียบร้อยแล้ว นอกนั้นก็ตัดสินใจกลับมาแข่งขันกันต่อทั้งหมด ซึ่งด้วยการที่ลีกของฝรั่งเศสนั้นตัดจบฤดูกาลไปเรียบร้อยแล้วนั้นทำให้ทีมในลีก เอิงนั้นเริ่มมีการเคลื่อนไหวในตลาดซื้อขายนักเตะทันที และทำให้เกิดการย้ายทีมแบบบิ๊กดีลแรกในช่วงปีนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คือปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมแชมป์ลีก เอิงในฤดูกาลล่าสุด ที่ได้ตกลงทำการคว้าตัวเมาโร อิการ์ดี้ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ยืมตัวจากอินเตอร์ มิลานในอิตาลีมาใช้งานในฤดูกาลที่ผ่านมา และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้พวกเขาตัดสินใจซื้อขาดมาร่วมทีมทันทีในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 50 ล้านยูโร และยังมีรายละเอียดที่อาจจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 8 ล้านยูโรด้วย หากว่าอิการ์ดี้บรรลุเงื่อนไขในสัญญาได้ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ลดจากที่เคยตกลงกันไว้ด้วย ซึ่งทางปารีสฯ นั้นมีออปชั่นในการซื้อขาดกองหน้ารายนี้อยู่ที่ 70 ล้านยูโรในตอนแรก แต่ด้วยปัญหาด้านการเงินในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ทางทีม “งูใหญ่” ยอมลดค่าตัวมาเหลือเพียง 58 ล้านยูโรเท่านั้น ซึ่งก็ลดไปจากเดิมพอสมควรทีเดียว ซึ่งนี่ถือว่าเป็นบิ๊กดีลแรกของตลาดซื้อขายหลังจบฤดูกาลของฟุตบอลยุโรปปีนี้
