มิเกล อาร์เตต้า กุนซือมือใหม่ชาวสเปน เป็นกุนซือที่พึ่งเริ่มงานคุมทีมเพียงแค่ประมาณ 1 ปีเท่านั้น ซึ่งเขาเข้ามารับงานเป็นผู้จัดการทีมอาร์เซน่อลต่อจากอูไน อเมรี่ กุนซือหนุ่มชาวสเปนที่โดนปลดออกจากตำแหน่งไป หลังจากที่ไม่สามารถทำให้อาร์เซน่อลดีขึ้นกว่าเดิมได้ ซึ่งในตอนนั้นอาร์เตต้าถือว่าเป็นตัวเลือกที่เซอร์ไพรส์ทีเดียวที่ได้เข้ามาคุมทีม “ปืนใหญ่” ในตอนนั้น เพราะในช่วงเวลานั้นมีแคนดิเดตมากมายหลายคนที่ว่างงาน และโปรไฟล์ดีๆ ทั้งนั้น ส่วนอาร์เตต้ายังเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยของเป็ป กวาดิโอล่า ยอดกุนซือชาวสเปนที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้เท่านั้น และยังไม่มีประสบการณืในการเป็นผู้จัดการทีมด้วยซ้ำ แต่ฝ่ายบริหารของอาร์เซน่อลกลับเลือกเข้ามาเป็นกุนซืออย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งบอร์ดบริหารของทีมดังในเมืองหลวงของอังกฤษก็ทราบดีของความเสี่ยงในการแต่งตั้งกุนซือมือใหม่เข้ามาคุมทีม อีกทั้งยังเป็นในช่วงกลางฤดูกาลด้วยซ้ำ ซึ่งทำให้มีโอกาสที่เป้าหมายที่พวกเขาตั้งเอาไว้ในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาลอาจจะเสียหายไปทั้งหมด แต่ว่าสุดท้ายมิเกล อาร์เตต้ากลับทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าอันดับในลีกจะไม่ดีพอที่จะไปเล่นในฟุตบอลยุโรปก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วเขากลับทำให้อาร์เซน่อลคว้าแชมป์เอฟเอ คัพมาครองได้สำเร็จ และยังได้โควต้าไปเล่นในศึกยูโรป้า ลีกในฤดูกาลนี้อีกด้วย
แต่ว่าในฤดูกาลนี้มิเกล อาร์เตต้ากลับต้องเผชิญกับอุปสรรคชิ้นใหญ่ในการคุมทีมเป็นครั้งแรกเสียแล้ว ซึ่งก็คือการพาทีมกลับสู่เส้นทางของชัยชนะนั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเป็นยอดกุนซือ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นยอดกุนซือที่เก่งกาจแค่ไหนก็เคยพาทีมพ่ายแพ้มาแล้วทั้งนั้น แต่สิ่งที่ทำให้ยอดกุนซือได้รับการยอมรับก็คือพวกเขาเหล่านั้นสามารถทำให้ทีมกลับมาเป็นผู้ชนะได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง ซึ่งจะทำให้ทีมกลับมาอยู่ในเส้นทางเดิมอีกครั้ง และจะทำให้นักเตะในทีมได้กำลังใจ และความมั่นใจกลับคืนมาด้วย แต่ตอนนี้กุนซือหนุ่มวัย 38 ปีกำลังประสบปัญหาอย่างหนักกับการที่จะทำให้อาร์เซน่อลเดินเรือกลับเข้าฝั่งอีกครั้งในตอนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นบททดสอบที่หนักหนาสาหัสที่กุนซือมือใหม่ทุกคนต้องเจอ และหากว่ามิเกล อาร์เตต้าอยากที่จะก้าวขึ้นไปเป็นยอดกุนซือ เขาต้องพาอาร์เซน่อลผ่านอุปสรรคนี้ไปให้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่พวกเขาจะหมดหวังในการไปเล่นฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้า
