“โชต้า” คือการซื้อที่ยอดเยี่ยม

Exclusive ขอบสนามวิเคราะห์เกมส์

ในตอนที่ทีม “หงส์แดง” วืดการคว้าตัวติโม แวร์เนอร์ กองหน้าดีกรีทีมชาติเยอรมันจากไลป์ซิก เนื่องจากไม่สามารถสู้ราคาค่าตัวได้ ทำให้สุดท้ายแวร์เนอร์ย้ายไปร่วมทีมเชลซีในที่สุด ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับสาวก “เดอะ ค็อป” ในตอนนั้นมากทีเดียว เพราะติโม แวร์เนอร์นั้นดูเหมือนจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ยอดเยี่ยมที่จะเข้ามาหมุนเวียนกันลงสนามในแดนหน้าร่วมกับ 3 ประสานเดิมอย่างโรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และซาดิโอ มาเน่ได้อย่างลงตัว

เพราะว่าแวร์เนอร์นั้นสามารถเล่นได้ทั้ง 3 ตำแหน่งในแดนหน้า ซึ่งน่าจะตอบโจทย์กับระบบการเล่นของเจอร์เก้น คล็อปป์ได้เป็นอย่างดี แต่สุดท้ายแล้วบอร์ดบริหารของลิเวอร์พูลก็ตัดใจที่จะล้มเลิกดีลนี้ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าตัวที่พวกเขามองว่าแพงเกินไป หรือด้วยจะเป็นสถานการณ์ในช่วงโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบด้านการเงินกับสโมสรอยู่พอสมควร ทำให้ตอนแรกดูเหมือนว่าจะไม่มีแนวรุกตัวใหม่เข้ามาเสริมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

แต่ว่าในช่วงท้ายของตลาดการซื้อขายนักเตะ ลิเวอร์พูลก็ตัดสินใจคว้าตัวดิโอโก้ โชต้า ตัวรุกดาวรุ่งชาวโปรตุกีสมาจากวูล์ฟส์แฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ทีมคู่ปรับร่วมลีกด้วยค่าตัวประมาณ 45 ล้านปอนด์ ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงเกินไปสำหรับฝีเท้าของโชต้าในตอนนั้น แต่หากดูจากอายุที่อยู่ในวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น และผลงานที่เล่นให้กับทีม “หมาป่า” ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้นก็ถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลอยู่ และก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่าวูล์ฟส์ตั้งค่าตัวของราอูล ฮิมิเนซ กองหน้าตัวเก๋าชาวเม็กซิโกไว้แพงกว่านี้ด้วยซ้ำ ซึ่งการซื้อโชต้าในราคานี้นั้นถือว่าเป็นราคาที่รับได้อย่างแน่นอน และเพียงไม่นานที่เขาย้ายมาอยู่ในรังแอนฟิลด์ ดิโอโก้ โชต้าก็เริ่มฉายแสงทันที ซึ่งเขาสามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้ายแทนซาดิโอ มาเน่ และยังเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าในแบบของโรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ได้ด้วย และที่สำคัญคือที่ผ่านมาที่เขาได้ลงสนามให้กับลิเวอร์พูลนั้น ดิโอโก้ โชต้าแสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีสัญชาตญานในการทำประตูที่ดีกว่าโรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่เพิ่มศักยภาพในแนวรุกให้กับลิเวอร์พูลได้เป็นอย่างดีในฤดูกาลนี้ ซึ่งดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสรายนี้ถือว่าเป็นตัวหมุนเวียนของ 3 ประสานในแนวรุกที่สโมสรตามหามานานเลยทีเดียว