ศึกบิ๊กแมตช์ของพรีเมียร์ลีกประจำสัปดาห์นี้ เป็นการพบกันระหว่างเชลซี ที่จะเปิดรังสแตนฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 2 ของตาราง ซึ่งทั้งคู่มีเกมกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งคู่ ทำให้อาจจะมีอาการล้าไปบ้างในเกมนี้ แต่อย่างน้อยเชลซีจะได้พักมากกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถึง 2 วันเลยทีเดียว และพวกเขายังเป็นช่วงที่ทำผลงานได้อย่างสุดยอดอีกด้วย หลังจากที่เปลี่ยนกุนซือมาเป็นโธมัส ทูเคิ่ล ทีมของพวกเขาก็เก็บชัยชนะมาได้อย่างต่อเนื่อง และยังไม่แพ้ใครเลยในช่วงที่ผ่านมา แถมยังบุกไปเอาชนะแอตเลติโก มาดริดในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้อีกด้วย ทำให้พวกเขากำลังอยู่ในความมั่นใจสุดขีดในเวลานี้ ส่วนทีม “ปีศาจแดง” นั้นเริ่มสะดุดบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาเก็บชัยชนะในนัดที่พบกับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดได้สำเร็จ 3-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เกมนี้น่าจะเป็นอีกเกมที่สนุกสูสีเป็นอย่างยิ่งทีเดียว
ผลงานการพบกันของทั้ง 2 ทีมในช่วง 6 นัดหลังสุดเป็นทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ทำได้ดีกว่า โดยพวกเขาเก็บชัยชนะไปได้ถึง 3 ครั้ง และเสมอไป 2 ครั้ง และปล่อยให้เชลซีเอาชนะพวกเขาได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น คือในศึกเอฟเอ คัพรอบรองชนะเลิศเมื่อปีที่แล้ว ส่วนการพบกันในฤดูกาลนี้ก็เสมอกันไป 0-0 โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดน่าจะเป็นฝ่ายเอาชนะมากกว่า แต่ว่าเชลซีดันได้เอดูอาร์ เมนดี้ นายประตูตัวใหม่ในตอนนั้นที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และช่วยให้ทีมเก็บแต้มได้สำเร็จ แต่เกมนี้อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะนับตั้งแต่ที่โธมัส ทูเคิ่ลเข้ามาคุมทีม เชลซีสามารถเป็นฝ่ายโดมิเนตเกม หรือว่าครองบอลได้เป็นส่วนใหญ่ และสามารถครองบอลบุกใส่คู่แข่งได้อยู่ตลอดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม แถมเกมรับที่ถูกมองว่าอ่อนนั้นก็รับภาระน้อยลงจากในยุคแฟรงค์ แลมพาร์ดอย่างชัดเจน ซึ่งเกมนี้น่าจะแตกต่างจากเกมแรกที่พบกันเมื่อปีที่แล้วอย่างชัดเจน เพราะด้วยระบบการเล่นที่แข็งแกร่งของกุนซือชาวเยอรมัน น่าจะทำให้เชลซีเป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ผู้มาเยือนอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสียมากกว่า ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 ทีมมีคะแนนห่างกันอยู่ 6 คะแนน หากว่าเชลซีเอาชนะได้สำเร็จ จะทำให้พวกเขามีโอกาสมากขึ้นในการลุ้นโควต้าไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลหน้าด้วย เพราะตอนนี้คะแนนของอันดับ 2 ถึงอันดับที่ 5 ถือว่าห่างกันไม่มากนัก