รางวัลโกลเด้น บูท หรือรองเท้าทองคำคือรางวัลที่ทางสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือว่าทางยูฟ่าจะมอบให้กับนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดในลีกของยุโรป ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะเอาจำนวนประตูได้มาวัดกันอย่างเดียว แต่ต้องเอามาคูณกับค่าคะแนนของแต่ละลีกด้วยความค่าสัมประสิทธ์ของลีกในทวีปยุโรป ซึ่งบรรดา 5 ลีกใหญ่ของยุโรปอันประกอบไปด้วยพรีเมียร์ลีก ลีก เอิง บุนเดสลีก้า กัลโช่ เซเรีย อา และลา ลีก้าสเปนเป็นลีกที่มีตัวคูณมากที่สุดที่ 2 คะแนนต่อ 1 ประตู แต่ลีกรองลงมาลีกอื่นๆ นั้นก็จะคูณเพียง 1.5 ต่อประตูเท่านั้น ทำให้ในระยะหลังมานี้นักเตะที่ได้รางวัลนี้ก็มักจะมาจากลีกใหญ่ๆ ของยุโรปทั้งนั้น ซึ่งก็เหมือนกับเป็นการคูณคะแนนความยากในกีฬายิมนาสติกนั่นเอง
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมามีนักเตะเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นที่สามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวของยุโรปไปครอง ซึ่งก็คือคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงทีมชาติโปรตุเกสที่ได้ทั้งกับตอนที่อยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเรอัล มาดริด เช่นเดียวกับหลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัยที่ก็ได้ตอนอยู่กับลิเวอร์พูล และบาร์เซโลน่า และอีกคนก็คือลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์นั่นเอง ซึ่งนอกจากนั้นก็ไม่มีใครสอดแทรกขึ้นมาได้อีกเลยในช่วงที่ผ่านมา แต่ในฤดูกาลนี้รางวัลนี้กำลังจะตกเป็นของกองหน้ารายใหม่แล้ว เพราะ 3 ดาวเตะที่กล่าวมานั้นล้วนทำผลงานได้ตกลงในฤดูกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นเมสซี่ และโรนัลโด้ที่อายุมากขึ้นทุกที ส่วนหลุยส์ ซัวเรซนั้นก็บาดเจ็บไปตั้งแต่เดือนมกราคม ทำให้เขาพลาดการลงสนามไปหลายนัดในฤดูกาลนี้ และนอกจากบรรดาตัวเต็งจะฟอร์มตกแล้ว ฤดูกาลนี้บรรดากองหน้าลีกต่างๆ กลับมาทำผลงานได้อย่างสุดยอดกันหลายคน โดยเฉพาะโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้ากัปตันทีมชาติโปแลนด์ของบาเยิร์น มิวนิค ที่ฤดูกาลนี้เขาทำประตูได้เกิน 30 ประตูเรียบร้อยแล้วก่อนจบฤดูกาลด้วยซ้ำ นอกจากนั้นแล้วยังมีชิโร่ อิมโมบิเล่ กองหน้าทีมชาติอิตาลีของลาซิโออีกด้วย ที่เขาเป็นตัวเต็งในรางวัลนี้ประจำฤดูกาลนี้มาตั้งแต่ช่วงกลางฤดูกาลแล้ว เพราะในศึกกัลโช่ เซเรีย อาที่หยุดแข่งไปตอนจบ 26 นัด กองหน้าวัย 30 ปีรายนี้ทำได้ถึง 27 ประตูเลยทีเดียว ซึ่งเขายังมีโอกาสที่จะเบิกสกอร์เพิ่มได้อีกเป็น 10 นัดหลังจากนี้ ซึ่งมีโอกาสที่เขาจะทำประตูแซงหน้าโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้กลับไปคว้ารางวัลนี้มาครองตอนจบฤดูกาล เพราะนอกจากนี้แล้วก็ไม่น่าจะมีใครที่ไล่ตามกองหน้าของทีม “เสือใต้” ได้ทันแล้ว
