เป็นการพบกันระหว่าง 2 ทีมในกลุ่มบิ๊ก 6 แม้ว่าตอนนี้อาร์เซน่อลจะยังไม่ได้อยู่ในหัวตารางของพรีเมียร์ลีกก็ตาม แต่พวกเขาสามารถบุกไปเอาชนะทีม “ปีศาจแดง” ได้สำเร็จมาแล้วในนัดแรกที่พบกันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด 1-0 ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้นัดสุดท้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้อีกด้วย และหลังจากนั้นมาผลงานของทั้ง 2 ทีมก็เหมือนจะสลับกัน เพราะหลังจากที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแพ้อาร์เซน่อล หลังจากนั้นเป็นต้นมาพวกเขากลับมาทำผลงานได้อย่างสุดยอด จนก้าวขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในเวลานี้ ส่วนทางทีม “ปืนใหญ่” ก็ผลงานแย่ลงทันทีหลังจากเกมที่บุกเอาชนะที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่การพบกันที่เอมิเรต สเตเดี้ยมในเกมนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างเหมาะเจาะสำหรับทั้ง 2 ทีม เพราะทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงของฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม โดยเจ้าถิ่นอาร์เซน่อลกลับมาเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง แม้ว่าในศึกเอฟเอ คัพรอบ 4 พวกเขาจะต้องตกรอบด้วยน้ำมือของเซาธ์แฮมป์ตันก็ตาม ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ไม่แพ้ใครมาอย่างยาวนาน แถมยังได้ความมั่นใจมาจากการเก็บชัยชนะในศึกแดงเดือดกับลิเวอร์พูลได้สำเร็จในเอฟเอ คัพรอบ 4 อีกด้วย ทำให้น่าจะเป็นเกมที่สนุกทีเดียว
ผลงานการพบกันของทั้ง 2 ทีมในช่วง 6 นัดที่ผ่านมานั้นเป็นทางอาร์เซน่อลที่ทำได้ดีกว่าชัดเจน โดยพวกเขาเก็บชัยชนะได้ 3 นัด และแพ้ไปเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น โดยพวกเขาแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดครั้งสุดท้ายในฤดูกาล 2018-2019 แต่หลังจากนั้น 4 นัดที่ผ่านมาพวกเขาเก็บชัยชนะได้ถึง 3 นัด โดยที่เอมิเรต สเตเดี้ยม 2 นัดหลังสุดพวกเขาเอาชนะได้ 2-0 ทั้ง 2 นัด และตั้งแต่ที่มิเกล อาร์เตต้าเข้ามาเป็นกุนซือ เขาพาอาร์เซน่อลเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ทั้ง 2 นัดที่พบกัน ซึ่งเจ้าถิ่นกำลังเจอทีมที่ลงตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีเอมิล สมิธ โรว์ กองกลางดาวรุ่งของทีมยืนเป็นจอมทัพ ซึ่งกลายเป็นดาวเตะคนสำคัญที่ทำให้ทีมมีผลงานยอดเยี่ยมในช่วงที่ผ่านมา ส่วนทีมเยือนนั้นกำลังมีความมั่นใจสุดๆ ซึ่งโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ สามารถเก็บผลการแข่งขันที่ดีได้ตลอด แถมยังหมุนเวียนผู้เล่นกันลงสนามได้ค่อนข้างไหลลื่นอีกด้วยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การพบกันนัดนี้น่าสนใจมากทีเดียว ซึ่งเป็นเหมือนเกมที่จะวัดว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีหวังแค่ไหนในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ส่วนทางอาร์เซน่อลก็จะวัดได้ว่าพวกเขายังมีโอกาสจะได้ลุ้นโควต้าไปเล่นฟุตบอลยุโรปในปีหน้าหรือไม่ด้วย
